วันนี้ทีมงานมีทวี พาเที่ยว จะพาทานไปสัมผัสทัศนียภาพที่งดงามของทะเลสาปสุริยันจันทรา ณ เมืองหนานโถวกันคับ
|
บรรยากาศบริเวณท่าเรือ |
ทะเลสาบสุริยันจันทรา นับเป็นทะเลสาปน้ำจืดที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในเกาะไต้หวัน ซึ่งถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวไฮไลท์ที่นักท่องเที่ยวต่างชาติแทบทุกคนต้องมาเที่ยวชมทะเลสาปแห่งนี้
|
น้ำในทะเลสาปเป็นสีเขียวมรกต |
ที่มาของชื่อทะเลสาป "สุริยันจันทรา" แห่งนี้มาจากรูปทรงของทะเลสาปที่หากมองจากวิวมุมสูงลงมาทางฝั่งทิศตะวันออกของทะเลสาบจะมีรูปร่างคล้ายกับมีพระอาทิตย์ ส่วนฝั่งทิศตะวันตกมีรูปร่างคล้ายกับพระจันทร์
|
เรือนำเที่ยวของคณะเรา |
|
สาวๆถ่ายรูปหมู่ก่อนลงเรือ |
ช่วงเวลาที่เป็นไฮไลท์ในการเที่ยวชมทะเลสาบสุริยันจันทรา คือ ช่วงที่พระอาทิตย์ขึ้นในช่วงเช้าและพระอาทิตย์ตกในช่วงเย็นเป็นทัศนียภาพที่งดงามยิ่งนัก
|
กัปตันเรือชาวไต้หวันของคณะเรา |
|
หนุ่มๆนั่งชิวๆท้ายเรือ |
การเที่ยวชมที่ทะเลสาบสุริยันจันทราจะมีเรือยอร์ชบริการพานักท่องเที่ยวนั่งเรือชมวิวโดยรอบทะเลสาปและจอดให้นักท่องเที่ยวได้ขึ้นไปบนเกาะไหว้พระที่วัดพระถังซำจั๋งกันคับ
|
บรรยากาศภายในเรือ |
|
ศาลาริมน้ำที่ท่านเจียงชอบมานั่ง |
โดยปกติทะเลสาบสุริยันจันทราแห่งนี้จะไม่อนุญาตให้นักท่องเที่ยวลงว่ายน้ำในทะเลสาป แต่ในปีหนึ่งจะมีเพียงแค่ 1 วันเท่านั้นที่อนุญาติให้นักท่องเที่ยวลงมาว่ายน้ำในทะเลสาปแห่งนี้ได้ คือ การแข่งขันว่ายน้ำรายการ "The Swimming Carnival of Sun Moon Lake" ซึ่งจัดขึ้นช่วงกลางฤดูใบไม้ผลิของทุกปี
|
โรงแรม 5 ดาวของที่นี่ |
|
บรรยากาศชิวๆระหว่างล่องในทะเลสาป |
โดยเป็นการแข่งขันว่ายน้ำประจำปีระยะทาง 3 กิโลเมตร โดยมีผู้เข้าร่วมแข่งขันคับคั่งนับหมื่นคน
|
เกาะ "ลาหลู๋" เกาะที่โผล่อยู่กลางทะเลสาป |
ระหว่างทางเรือก็ชลอให้คณะเราได้ถ่ายภาพกับเกาะ "ลาลู" เกาะเล็กๆที่อยู่กลางทะเลสาบซึ่งแต่เดิมเป็นเกาะศักดิ์สิทธิ์ของชน "เผ่าเซ้าจู๋" ได้เคยอาศัยอยู่
|
มีกระชังปลูกพืชให้เป็นที่วางไข่และอาหารของปลา |
แต่เหตุที่ทำให้เกาะนี้มีขนาดเล็กลงเนื่องมาจากการก่อสร้างเขื่อนในปี ค.ศ.1930 ทำให้ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นท่วมทั้งเกาะ
|
ปลาประธานาธิบดี ปลาขึ้นชื่อของทะเลสาปแห่งนี้ |
จากนั้นในปี ค.ศ.1999 ที่ทะเลสาปแห่งนี้เกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ส่งผลให้เกาะแห่งนี้ยิ่งทรุดตัวลงจนทำให้เกาะ"ลาลู" ในที่อดีตเคยมีผู้คนอาศัยอยู่กลายเป็นเพียงเกาะเล็กๆที่ยังคงหลงเหลือในปัจจุบัน
|
ถึงท่าเรืออีกฝั่งแล้ว |
|
นักท่องเที่ยวมาเที่ยวบนเกาะนี้อย่างมากมาย |
หลังจากที่ได้แวะถ่ายรูปกับเกาะ "ลาลู" เป็นที่เรียบร้อยแล้วกับตันเรือของเราก็นำเรือมาเทียบท่าให้คณะเราได้ขึ้นไปชมทัศนียภาพของทะเลสาปสุริยันจันทราบนเนินเขาและถือโอกาสสักการะวัดพระถังซำจั๋งด้วยคับ
|
ซุ้มประตูทางเข่้า |
|
วัยรุ่นพร้อมลุยขึ้นเขาแล้วคับ |
บนเกาะนี้เนืองแน่นไปด้วยผู้คนหลากหลายเชื้อชาติที่มาท่องเที่ยว ซึ่งคณะเราไม่รอช้าเตรียมพร้อมเดินทางขึ้นเขาคับ
|
สาวกลัทธิ "ฝ่าหลุนกง" |
|
ป้ายลัทธิ "ฝ่าหลุนกง" |
ระหว่างทางที่ขึ้นเขาคณะเราก็ได้พบกับสาวกลัทธิฝ่าหลุนกง ที่มานั่งสมาธิและถือป้ายต่อต้านรัฐบาลคอมมิวนิสต์ของประเทศจีนแผ่นดินใหญ่
|
ในที่สุดก็ถึงยอดเขาแล้ว |
|
วิวโดยรอบของทะเลสาป |
หลังจากที่ได้เดินขึ้นมาสู่ยอดเขาแล้ว คณะเราก็ได้สัมผัสถึงทัศนียภาพอันงดงามและสายลมเย็นสดชื่นของทะเลสาปแห่งนี้
|
วิวทางซ้ายมือ จะเป็นทะเลสาปพระจันทร์ |
|
ศาลพระถังซำจั๋ง |
จากนั้นคณะเราก็ได้เข้าไหว้สักการะวัดพระถังซำจั๋งหรือเสวียนจั้ง พระภิกษุในตำนานนิยายเรื่อง "ไซอิ๋ว" ที่ผ่าอุปสรรคอันตรายนานับประการในการเดินทางไปยังชมภูทวีปเพื่อศึกษาและอัญเชิญพระไตรปิฎกกลับมาเผยในประเทศจีนในสมัยราชวงศ์สุย
|
กระถางธูปหน้าศาล |
|
องค์พระถังซำจั๋ง |
หลังจากที่คณะเราจุดธูปไหว้พระกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว จานั้นก็มีชาวไต้หวันและชาวจีนกลุ่มหนึ่งเข้ามาไหว้พระในศาลาเช่นกันแต่สิ่งหนึ่งที่ผมสังเกตุคือ วิธีการไหว้พระขอพรของคนจีนจะต่างจากการไหว้พระของบ้านเรากล่าวคือ ชาวจีนและชาวไต้หวันที่นี่จะกระพระโดยการหงายฝ่ามือขึ้นซึ่งต่างจากบ้านเรา
|
วิธีไหว้เจ้าของคนที่นี่จะหงายฝ่ามือขึ้น |
|
ลงเขามาหิวๆก็ต้องโด๊ปไข่อาม่า |
หลังจากที่ได้ไหว้พระกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว อีกหนึ่งสิ่งที่ขาดไม่ได้เมื่อมาเที่ยวบนเกาะนี้คือ การอุดหนุนร้านไข่ต้มใบชาอาม่าชื่อดังมาลิ้มลองกันคับ
|
ไข่อาม่า 1 ใบ 13 ส่วน 2 ใบ 25 NTคับ |
|
ไข่ต้มใบชาซูมให้เห็นกันชัดๆคับ |
ไข่ต้มใบชาร้านอาม่า ร้านนี้ใครมาก็ต้องต่อคิวซื้อหามาทานกันคับกับไข่ต้มน้ำซุปใบชาใส่เห็ดหอมและสมุนไพรจีนหอมกรุ่น รับรองว่าเมนูนี้ไม่ทำให้ท่านต้องผิดหวัง
|
ไข่ต้มในซุปสมุนไพรเห็ดหอมและใบชา |
รสชาติของไข่ต้มอาม่านั้นกลมกล่อมพอดีไม่ต้องเติมซอสแม๊กกี้เลยคับทานไข่ต้มร้อนๆช่วงอากาศหนาวๆรับรองว่าอร่อยสุโค้ยคับ
|
แซ่ปหลายๆเด้อค่ะ |
|
มีดนตรีบรรเลงให้ฟังข้างร้านไข่ต้มอาม่า |
ซื้อไข่อาม่ามาทานรองท้องกันแล้วท่านก็สามารถนั่งฟังเพลงชิวๆกับนักร้องท้องถิ่นที่เล่นดนตรีสดๆให้นักท่องเที่ยวได้เพลิดเพลินกันทุกวัน ท่านไหนฟังแล้วถูกใจก็อุดหนุนซื้อซีดีเพลงของอาเฮียแกได้คับ
|
ได้เวลานั่งเรือกลับขึ้นฝั่งแล้ว |
|
นายแบบหุ่นทหารจิ๋นซี บริเวณท่าเรือ |
เมื่อขึ้นจากท่าเรือและเดินทางกลับไปยังรสบัสคณะเราก็ต้องเดินผ่านถนนคนเดินซึ่งมีทั้งของน่าชิมน่าซ๊อปหลากหลายให้ได้ลิ้มลองกันคับ มีอะไรน่าชิมน่าช๊อปทางทีมงานมีทวีพาเที่ยวได้เก็บภาพมาฝากกันคับ
|
ขึ้นมาจากท่าเรือก็มีร้านค้าให้เลือกช๊อป |
|
ปากกาไม้แกะสลัก Handmade |
ถ้าเป็นของฝากที่น่าซื้อก็หนีไม่พ้นงานไม้แกะสลักงาน Handmadeของที่นี่คับ
|
ผลไม้สดๆให้เลือกซื้อ |
|
มาที่นี่ต้องชิมฝรั่งเนื้อแดงคับ |
ส่วนผลไม้สดของที่นี่ก็น่าซื้อมาลิ้มลองทานหลายชนิดคับ ไม่ว่าจะเป็นฝั่งเนื้อแดงและน้อยหน่าลูกใหญ่ที่รสชาติหวานฉ่ำคับ
|
กล้วยที่นี่ก็สีแดงหวีใหญ่มากๆ |
|
ส่วนร้านนี้ก็ปิ้งย่างคับ |
ถ้าเป็นเมนูอาหารคาวก็แนะนำปิ้งย่างร้านอาเฮียคนนี้คับเนื้อหวานนุ่มชุ่มลิ้น อย่าได้ช้าจัดไปไม้ละ 40 NT คับ
|
ไม้ละ 40 NT คับ |
|
ส่วนร้านนี้ก็ทองม้้วนคับ |
ส่วนถ้าเป็นเมนูขนมร้านนี้เห็นแล้วคุ้นหน้าคุ้นตาก็ทองม้วนไต้หวันคับ ทองม้วนผสมงาดำหวานหอมอร่อยไม่แพ้ทองม้วนบ้านเราคับ
|
ทองม้วนไต้หวันหวาน มัน กรอบอร่อยไม่แพบ้านเรา |
|
ปิดท้ายด้วยชานมไข่มุกดับกระหาย |
และปิดท้ายถ้าเป็นเมนูเครื่องดื่มยอดฮิตของชาวไต้หวันก้ต้อง "ชานมไข่มุกคับ" ชานมที่นี่มีหลายรสชาติให้เลือกชิมอีกทั้งสามารถเลือกระดับความหวานมากน้อยตามแต่ใจลูกค้าได้ด้วยคับ
|
สาวๆคณะเราก็สั่งชานมเผือกชิมกันคนละแก้ว |
ในตอนหน้าทีมงานมีทวี พาเที่ยว จะพาท่านไปสักการะวัดเหวินอู่ ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากทะเลสาปสุริยันจันทราคับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น